หัวข้อ

โควรัมอัครสาวกสิบสอง

หนึ่งในชายสิบสองคนเป็นคนเก็บภาษี อีกหลายคนเป็นชาวประมงที่ตรากตรำงานบนผืนน้ำแห่งกาลิลี เมื่อได้รับเรียกให้รับใช้ บุคคลเหล่านี้อุทิศตนเพื่อเป็นพยานต่อโลกถึงพระองค์ผู้ทรงเรียกพวกท่าน

พวกท่านเป็นสาวกฝ่ายผู้นำสิบสองคนหรือ "อัครสาวก" ที่ พระเยซูคริสต์ ทรงเลือกไว้เมื่อประมาณเกือบสองพันปีที่ผ่านมา

ชายที่ดำรงตำแหน่งเดียวกันนี้ในปัจจุบันมาจากหลากหลายสาขาอาชีพ อาทิ ฝ่ายกฎหมาย ธุรกิจ การแพทย์ วิชาการ และฝ่ายตุลาการ เมื่อได้รับเรียกให้รับใช้ พวกท่านยุติงานอาชีพมารับใช้เต็มเวลาในฐานะพยานของพระคริสต์เช่นกัน

บุคคลเหล่านี้คือสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย

โควรัมอัครสาวกยุคปัจจุบันจัดตั้งในปี ค.ศ. 1835 เป็นตัวอย่างหนึ่งของการฟื้นฟูศาสนจักรที่พระเยซูคริสต์ทรงสถาปนาไว้บนแผ่นดินโลก

โควรัมอัครสาวกสิบสองเป็นกลุ่มประธานควบคุมสูงสุดอันดับสองในการปกครองศาสนจักร สมาชิกในโควรัมรับใช้ภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานสูงสุดซึ่งเป็นหน่วยปกครองของบุคคลสามท่าน—ประกอบด้วยประธานและที่ปรึกษาสองท่าน

นอกจากความรับผิดชอบเบื้องต้นในการเป็นพยานพิเศษถึงพระนามของพระคริสต์ไปทั่วโลกแล้ว อัครสาวกยังมีหน้าที่รับผิดชอบอันหนักหน่วงด้านบริหารด้วยขณะดูแลความก้าวหน้าและการพัฒนาอย่างเป็นระบบของศาสนจักรทั่วโลก

เฉกเช่นอัครสาวกในสมัยโบราณถูกส่งไปทั่วโลก อัครสาวกสิบสองปัจจุบันเดินทางไปทั่วโลกเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและให้กำลังใจสมาชิกศาสนจักร จัดตั้งที่ประชุมแห่งใหม่ และดำเนินกิจธุระของศาสนจักร บางครั้งหมายถึงการประชุมกับผู้นำประเทศเพื่อเจรจาขออนุญาตจัดตั้งศาสนจักรในประเทศนั้นๆ

สมาชิกคนปัจจุบันของโควรัมอัครสาวกสิบสองได้แก่

ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์

ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์ ประธานโควรัมอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายได้รับการวางมือมอบหน้าที่สู่ตำแหน่งนี้เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 ก่อนหน้านั้น ท่านทำหน้าที่ประธานรักษาการโควรัมอัครสาวกสิบสองโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1994 ก่อนเป็นประธานรักษาการ ท่านรับใช้เป็นสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองโดยได้รับแต่งตั้งเป็นอัครสาวกเมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1970 ท่านเคยรับใช้เป็นผู้ช่วยโควรัมอัครสาวกสิบสองเกือบเก้าปี

ท่านเป็นนักการศึกษาโดยอาชีพ อาชีพของท่านรวมถึงการรับใช้เป็นหัวหน้างาน เซมินารี และ สถาบันศาสนา สำหรับศาสนจักรและเป็นสมาชิกในสภาบริหาร มหาวิทยาลัยบริคัมยังก์

ท่านศึกษาที่วิทยาลัยวีเบอร์และต่อมาได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิตและวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยยูทาห์สเตท ท่านได้รับปริญญาเอกด้านการบริหารการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์

ประธานแพคเกอร์เกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 1924 ในบริคัมซิตี้ ยูทาห์ ท่านประจำการเป็นนักบินบังคับเครื่องบินทิ้งระเบิดช่วงสงครามโลกครั้งที่สองในแปซิฟิกเธียเทอร์

ประธานแพคเกอร์รับใช้เป็นประธานคณะเผยแผ่นิวอิงแลนด์ ท่านเป็นผู้เขียนหนังสือหลายเล่มและสิ่งพิมพ์อื่นๆ อีกหลายชิ้น ท่านเป็นจิตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพนก ท่านแต่งงานกับดอนนา สมิธ มีบุตรสิบคน

เอ็ลเดอร์แอล. ทอม เพอร์รีย์

เอ็ลเดอร์แอล. ทอม เพอร์รีย์ สมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ได้รับเรียกสู่ตำแหน่งปัจจุบันในศาสนจักรเมื่อวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1974 หลังจากรับใช้เป็นผู้ช่วยอัครสาวกสิบสองตั้งแต่ปี 1972

การรับใช้ศาสนจักรของเอ็ลเดอร์เพอร์รีย์เริ่มต้นด้วยงานเผยแผ่ในรัฐทางตอนเหนือเมื่อปี 1942 หลังจากนั้นท่านประจำการนาวิกโยธินในแปซิฟิกสองปี ตำแหน่งต่างๆ ในศาสนจักรต่อจากนั้นได้แก่ ที่ปรึกษาในฝ่ายอธิการที่เมืองลูอิสตัน รัฐไอดาโฮ ที่ปรึกษาในฝ่ายประธานสเตคในเมืองแซคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย สมาชิกสภาสูงในสเตคนิวยอร์ก และประธานสเตคบอสตัน

ท่านเกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1922 ในเมืองโลแกน รัฐยูทาห์ เป็นบุตรของเลสลี โธมัส กับโนรา ซอนนี เพอร์รีย์ ท่านได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิตด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยยูทาห์สเตทในปี 1949 และทำงานด้านการศึกษาวิจัยที่นั่น อาชีพของท่านคลุกคลีอยู่กับธุรกิจค้าปลีกซึ่งท่านทำหน้าที่รองประธานและเหรัญญิกบริษัทหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในไอดาโฮ แคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก และแมสซาชูเซตส์

วันที่ 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 ท่านแต่งงานกับเวอร์จิเนีย ลี จากเมืองไฮด์พาร์ค รัฐยูทาห์ ในพระวิหารโลแกน เธอถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1974 มีบุตรสาวสองคนและบุตรชายหนึ่งคน

ท่านแต่งงานกับบาร์บารา เทย์เลอร์ เดย์ตัน เมื่อวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1976 ในพระวิหารซอลท์เลค

เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันได้รับเรียกเป็นสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1984

ดร.เนลสัน ศัลยแพทย์ผู้มีชื่อเสียงระดับนานาชาติและนักวิจัยทางการแพทย์ ได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิตและแพทย์ศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยยูทาห์ (ค.ศ. 1945 และ 1947) ได้รับเกียรติบัตรจากสมาคมเกียรตินิยมทางวิชาการได้แก่สมาคมเกียรตินิยมการศึกษา (Phi Beta Kappa) และเกียรตินิยมทางการศึกษาแพทย์ (Alpha Omega Alpha) ท่านเป็นแพทย์ประจำบ้านในแผนกศัลยกรรมที่โรงพยาบาลแมสซาชูเซตส์เยนเนอรัล ในเมืองบอสตันและที่มหาวิทยาลัยมินนิโซตา ซึ่งที่นั่นท่านได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตในปี 1954 ท่านได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ในปี 1970 แพทย์ศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยยูทาห์สเตทในปี 1989 และปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากวิทยาลัยสโนว์ในปี 1994

งานอาชีพของท่าน ได้แก่ ตำแหน่งศาสตราจารย์วิจัยศัลยศาสตร์และผู้อำนวยการแพทย์ประจำบ้านสาขาศัลยศาสตร์ทรวงอกที่มหาวิทยาลัยยูทาห์ หัวหน้าแผนกศัลยกรรมทรวงอกที่โรงพยาบาลแอลดีเอสในซอทล์เลคซิตี้

เอ็ลเดอร์เนลสันเป็นเจ้าของงานเขียนและบทความมากมายในตำราเกี่ยวกับการแพทย์ ท่านบรรยายและไปเยือนทั่วสหรัฐและอีกหลายประเทศก่อนการเรียกเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ ท่านได้รับรางวัลและเกียรติยศมากมาย รวมทั้งรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นจากมหาวิทยาลัยยูทาห์ รางวัล Heart of Gold Award จาก American Heart Association รางวัลเกียรติคุณการบำเพ็ญประโยชน์ในระดับนานาชาติจาก American Heart Association และรางวัล Golden Plate Award ที่ American Academy of Achievement มอบให้ ท่านได้รับรางวัลศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยสามแห่งในสาธารณรัฐประชาชนจีน

ดร. เนลสันเป็นประธานสมาคมศัลยศาสตร์หลอดเลือด ผู้อำนวยการ American Board of Thoracic Surgery ประธานสภาศัลยศาสตร์หัวใจหลอดเลือดในสังกัด American Heart Association และประธานสมาคมแพทย์มลรัฐยูทาห์

ท่านมีรายชื่ออยู่ใน Who’s Who in the World, Who’s Who in America และ Who’s Who in Religion

เอ็ลเดอร์เนลสันเคยดำรงตำแหน่งความรับผิดชอบมากมายในศาสนจักร ท่านรับใช้เป็นประธานสเตค ของสเตคบอนเนวิลล์ตั้งแต่ปี 1964 ถึงเดือนมิถุนายนปี 1971 ปีที่ท่านได้รับเรียกเป็นประธานโรงเรียนวันอาทิตย์สามัญ ก่อนการเรียกสู่โควรัมอัครสาวกสิบสอง ท่านกำลังรับใช้เป็นตัวแทนเขตที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลเขตเคอร์น ยูทาห์ ก่อนหน้านั้นท่านเคยรับใช้เป็นตัวแทนเขตให้แก่มหาวิทยาลัยบริคัมยังก์

เอ็ลเดอร์เนลสันเกิดวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1924 เป็นบุตรของมาเรียน ซี. และเอ็ดนา แอนเดอร์สัน เนลสัน ท่านกับแดนท์เซล ไวท์ภรรยามีบุตรสิบคน ซิสเตอร์เนลสันถึงแก่กรรมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2005 ต่อมาท่านแต่งงานกับเวนดี แอล. วัทสัน ในเดือนเมษายน ปี 2006

เอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช. โอ๊คส์

เอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช. โอ๊คส์รับใช้เป็นสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1984

ท่านเป็นคนโพรโว ยูทาห์โดยกำเนิด (เกิด ค.ศ. 1932) ท่านกับจูน ดิกซอน โอ๊คส์ภรรยาผู้ล่วงลับ มีบุตรหกคน เธอถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ค.ศ. 1998 ท่านแต่งงานกับคริสเต็น เอ็ม. แม็คเมนในพระวิหารซอลท์เลคเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 2000

เอ็ลเดอร์โอ๊คส์สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ (ค.ศ. 1954) และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยชิคาโก (ค.ศ. 1957) ท่านเป็นทนายความและสอนวิชากฎหมายในชิคาโก ท่านเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ตั้งแต่ปี 1971 ถึงปี 1980 เป็นตุลาการศาลฎีกายูทาห์ตั้งแต่ปี 1980 จนลาออกในปี 1984 เพื่อรับการเรียกเป็นอัครสาวก

ท่านเคยเป็นเจ้าหน้าที่หรือสมาชิกในคณะกรรมการองค์กรธุรกิจ องค์กรการศึกษา และองค์กรการกุศลหลายแห่ง ท่านเป็นผู้เขียนหรือผู้เขียนร่วมของหนังสือและบทความมากมายเกี่ยวกับศาสนาและกฎหมาย

เอ็ลเดอร์เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด

เอ็ลเดอร์เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดเป็นสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ท่านรับใช้เป็นอัครสาวกตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1985 เดินทางไปทั่วโลกเพื่อสอนสมาชิกศาสนจักรและกำกับดูแลกิจจานุกิจแต่ละวันของศาสนจักรที่กระจายอยู่ทั่วโลก

ท่านเกิดในซอลท์เลคซิตี้ ยูทาห์ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1928 เป็นบุตรของเมลวิน อาร์. กับเจอราลดีน สมิธ บัลลาร์ด ท่านเรียนที่มหาวิทยาลัยยูทาห์

สมัยหนุ่ม ท่านรับใช้งานเผยแผ่ของศาสนจักรในประเทศอังกฤษ ที่นั่นท่านเป็นที่ปรึกษาในฝ่ายประธานคณะเผยแผ่ นอกจากนี้ท่านยังเคยรับใช้เป็นอธิการสองวาระ

คริสต์ศักราช 1974 ท่านได้รับเรียกเป็นประธานคณะเผยแผ่โทรอนโต แคนาดา ท่านกำลังรับใช้ที่นั่นเมื่อได้รับเรียกสู่โควรัมที่หนึ่งแห่งสาวกเจ็ดสิบในเดือนเมษายน ค.ศ. 1976 สมัยเป็นสมาชิกสาวกเจ็ดสิบ ท่านดูแลและอบรมผู้นำในเขตภูมิศาสตร์ที่ได้รับมอบหมาย ต่อมาท่านรับใช้เป็นสมาชิกในฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1980 ถึงเดือนตุลาคม ค.ศ. 1985 โดยควบคุมดูแลโควรัมสาวกเจ็ดสิบของศาสนจักร การปฏิบัติศาสนกิจส่วนใหญ่ของท่านมุ่งเน้นงานเผยแผ่ศาสนา

ก่อนการเรียกเป็นผู้นำเต็มเวลาของศาสนจักร เอ็ลเดอร์บัลลาร์ดมีรายได้จากธุรกิจรถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ และการลงทุน ท่านรับใช้ในคณะกรรมาธิการพลเรือนและคณะกรรมการของศาสนจักรหลายองค์กร

ท่านแต่งงานกับบาร์บารา โบเวนในพระวิหารซอลท์เลคเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 1951 มีบุตรชายสองคนและบุตรสาวห้าคน

เอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์

ริชาร์ด กอร์ดอน สก็อตต์ได้รับการสนับสนุนเป็นอัครสาวกของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิยุคสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1988 ท่านได้รับเรียกเป็นสมาชิกโควรัมที่หนึ่งแห่งสาวกเจ็ดสิบเมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1977 และรับใช้เป็นสมาชิกในฝ่ายประธานโควรัมดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1983 จนถึงการเรียกปัจจุบัน

ท่านเกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1928 ในเมืองโพคาเทลโล รัฐไอดาโฮ เป็นบุตรของเคนเน็ธ เลอรอย กับแมรีย์ วิทเทิล สก็อตต์ เมื่ออายุ 5 ขวบท่านกับบิดามารดาย้ายไปอยู่วอชิงตัน ดี.ซี. บิดาท่านรับราชการกระทรวงเกษตรและต่อมาเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการเกษตร

ท่านจบจากมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตันด้านวิศวกรรมเครื่องกล รับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลาที่อุรุกวัย สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิศวกรรมนิวเคลียร์ที่โอ๊คริดจ์ เทนเนสซี ตั้งแต่ปี 1953 ถึง 1965 เอ็ลเดอร์สก็อตต์ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ของ Admiral Hyman Rickover อำนวยการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์สำหรับเครื่องผลิตพลังงานที่ตั้งอยู่ในทะเลและบนบก เอ็ลเดอร์สก็อตต์ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขา Christian Serviceจากมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ในปี 2008

ตั้งแต่ปี 1965 ถึง ปี 1969 ท่านเป็นประธานคณะเผยแผ่อาร์เจนตินาเหนือในเมืองกอร์โดบา อาร์เจนตินา เมื่อกลับบ้านท่านทำงานเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของบริษัทพลังงานนิวเคลียร์หลายแห่ง

ท่านรับใช้เป็นตัวแทนเขตในอุรุกวัย ปารากวัย แคโรไลนาเหนือและใต้ เวอร์จิเนีย และวอชิงตัน ดี.ซี. จนกระทั่งได้รับเรียกเป็นสาวกเจ็ดสิบ

เอ็ลเดอร์สก็อตต์รักพระบิดาในสวรรค์ พระบุตรที่รักของพระองค์ และบุตรธิดาทุกคนของพระบิดา เอ็ลเดอร์สก็อตต์มีความสนใจพิเศษหลากหลายด้าน ท่านมีความรักลึกซึ้งต่อความสวยงามตามธรรมชาติของโลก

ท่านได้รับพรด้วยเจนีน วัทคินส์ภรรยาผู้มีพรสวรรค์ ท่านผนึกกับเธอมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1953 ในพระวิหารแมนไท เธอถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1995 ท่านทั้งสองมีบุตรเจ็ดคน

เอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์

เอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์ได้รับการสนับสนุนเป็นสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1994

เอ็ลเดอร์เฮลส์ได้รับการเรียกเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่เมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1975 ท่านรับใช้เป็นผู้ช่วยโควรัมอัครสาวกสิบสองและต่อมาเป็นสมาชิกโควรัมที่หนึ่งแห่งสาวกเจ็ดสิบ ท่านเป็นอธิการควบคุมของศาสนจักรตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 1985 จนได้รับเรียกสู่โควรัมอัครสาวกสิบสอง

ท่านเป็นตัวแทนเขตห้าปีก่อนการเรียกเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ ก่อนหน้านั้นท่านเคยรับใช้เป็นประธานสาขา อธิการ สมาชิกสภาสูง และที่ปรึกษาของประธานสเตค ท่านเป็นประธานคณะเผยแผ่อังกฤษ ลอนดอนตอนปลายทศวรรษ 1970 และรับใช้เป็นที่ปรึกษาที่หนึ่งในฝ่ายประธานโรงเรียนวันอาทิตย์สามัญ

ก่อนการเรียกให้รับใช้ศาสนจักรเต็มเวลา เอ็ลเดอร์เฮลส์มีอาชีพธุรกิจที่โดดเด่น ท่านทำงานในตำแหน่งผู้บริหารของบริษัทระดับชาติสามแห่ง

เอ็ลเดอร์เฮลส์เกิดที่นิวยอร์กซิตี้ ท่านสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยยูทาห์และได้รับปริญญาธุรกิจมหาบัณฑิตจากฮาร์วาร์ด ท่านประจำการกองทัพอากาศสหรัฐเป็นนักบินประจำเครื่องบินรบไอพ่น

ท่านแต่งงานกับแมรีย์ แครนดอลล์ มีบุตรสองคน

เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์

เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 1994 ขณะรับการเรียกนี้เอ็ลเดอร์ฮอลแลนด์กำลังรับใช้เป็นสมาชิกโควรัมที่หนึ่งแห่งสาวกเจ็ดสิบ ซึ่งท่านได้รับเรียกเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1989

ตั้งแต่ปี 1980 จนถึงการเรียกเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในปี 1989 เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์รับใช้เป็นอธิการบดีคนที่เก้าของมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ในเมืองโพรโว ยูทาห์ ท่านเป็นอดีตกรรมาธิการการศึกษาของศาสนจักรและคณบดีคณะศาสนศาสตร์ที่บีวายยู

ท่านเคยเป็นหัวหน้านักเรียนนักศึกษาและนักกีฬาตัวแทนโรงเรียนมัธยมดิกซีและวิทยาลัยดิกซีในบ้านเกิดที่เมืองเซนต์จอร์จ รัฐยูทาห์ ท่านได้รับปริญญาตรีและปริญญาโทสาขาภาษาอังกฤษและศาสนศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ ท่านได้รับปริญญามหาบัณฑิตและปริญญาดุษฎีบัณฑิตสาขาปรัชญาด้านอเมริกันศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยล

เอ็ลเดอร์ฮอลแลนด์ทำงานด้านการศึกษาอย่างแข็งขันก่อนได้รับเรียกให้รับใช้ในศาสนจักรเต็มเวลา ท่านเคยรับใช้เป็นประธานของ American Association of Presidents of Independent Colleges and Universities (AAPICU) ท่านเคยอยู่ในคณะกรรมการบริหารของ National Association of Independent Colleges and Universities (NAICU) และเป็นสมาชิกของ National Collegiate Athletic Association's (NCAA) Presidents Commission สำหรับงานของท่านในการส่งเสริมความเข้าใจระหว่างชาวคริสต์และชาวยิวท่านได้รับรางวัล "Torch of Liberty" จาก Anti-Defamation League of B'Nai B'rith ท่านรับใช้ในคณะกรรมการบริหารของบริษัทและรัฐหลายแห่ง ได้รับรางวัล “Distinguished Eagle Scout” จาก Boy Scouts of America (ลูกเสืออเมริกา) ท่านเขียนหนังสือแปดเล่ม หนึ่งในนั้นท่านเขียนร่วมกับแพทริเซียภรรยาท่าน

เอ็ลเดอร์ฮอลแลนด์เกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 1940 เป็นบุตรของแฟรงค์ ดี. กับอลิซ เบนท์ลีย์ ฮอลแลนด์ ท่านแต่งงานกับแพทริเซีย เทอร์รีย์ในปี 1963 มีบุตรสามคน

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์

เดวิด เอ. เบดนาร์ได้รับแต่งตั้งและวางมือมอบหน้าที่เป็นสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2004 ก่อนการเรียกสู่โควรัมอัครสาวกสิบสอง เอ็ลเดอร์เบดนาร์รับใช้เป็นสาวกเจ็ดสิบภาค สาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ภาค ตัวแทนเขต เป็นประธานสเตคและอธิการสองวาระ

เอ็ลเดอร์เบดนาร์เกิดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1952 ในเมืองโอกแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ท่านรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลาทางภาคใต้ของเยอรมนี หลังจากนั้นเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่นั่น ต่อมาได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตสาขาพฤติกรรมองค์กรจากมหาวิทยาลัยเพอร์ดู

หลังสำเร็จการศึกษา เอ็ลเดอร์เบดนาร์เป็นศาสตราจารย์ประจำภาควิชาบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยเทกซัสเทคและมหาวิทยาลัยแห่งอาร์คันซอ จากนั้นท่านรับใช้ตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์–ไอดาโฮ (วิทยาลัยริกส์ในอดีต) ตั้งแต่ปี 1997 ถึงปี 2004

เอ็ลเดอร์เบดนาร์แต่งงานกับซูซาน คี รอบินสันในพระวิหารซอลท์เลคเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1975 มีบุตรชายสามคน

เอ็ลเดอร์เควนทิน แอล. คุก

เอ็ลเดอร์เควนทิน แอล. คุกได้รับการสนับสนุนเป็นสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 2007 ท่านได้รับเรียกเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1996 โดยรับใช้ในโควรัมที่สอง โควรัมที่หนึ่ง และฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบตามลำดับ

เมื่อเป็นสาวกเจ็ดสิบ ท่านรับใช้ในฝ่ายประธานภาคที่ฟิลิปปินส์ เป็นประธานภาคหมู่เกาะแปซิฟิกและตะวันตกเฉียงเหนือของอเมริกาเหนือ และเป็นผู้อำนวยการบริหารแผนกผู้สอนศาสนา

สมัยที่ท่านได้รับเรียกเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ของศาสนจักร ท่านเป็นรองประธาน Sutter Health System ก่อนหน้านั้นท่านเป็นประธานและผู้บริหารระดับสูงของระบบสุขภาพในแคลิฟอร์เนีย โดยก่อนนั้นท่านเป็นทนายธุรกิจและหุ้นส่วนผู้จัดการสำนักงานทนายความ San Francisco Bay Area ท่านเป็นสมาชิกคณะกรรมการบริหารองค์กรแสวงหาผลกำไรและไม่แสวงหาผลกำไรหลายแห่ง

ท่านเคยรับใช้ศาสนจักรในฐานะอธิการ ประธานสเตคและที่ปรึกษาในสเตคแซนแฟรนซิสโก แคลิฟอร์เนีย ตัวแทนเขตและเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในเขตตะวันตกของอเมริกาเหนือ สมัยหนุ่มท่านเป็นผู้สอนศาสนาในคณะเผยแผ่บริติช

ท่านเป็นคนโลแกน ยูทาห์โดยกำเนิด ได้รับปริญญารัฐศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยยูทาห์สเตท และนิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

ท่านแต่งงานกับแมรีย์ แกดดีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1962 มีบุตรสามคน

[caption] เอ็ลเดอร์เควนทิน แอล. คุก โควรัมอัครสาวกสิบสอง

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันได้รับเรียกสู่โควรัมอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 2008 เมื่อครั้งได้รับการเรียกนี้ ท่านกำลังรับใช้ในฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบ

ในช่วงดำรงตำแหน่งฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบ เอ็ลเดอร์คริสทอฟเฟอร์สันมีความรับผิดชอบในการดูแลภาคตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกาเหนือ ท่านรับใช้เป็นผู้อำนวยการบริหารแผนกครอบครัวและประวัติศาสนจักร ก่อนหน้านั้นท่านเป็นประธานภาคเม็กซิโกใต้ของศาสนจักร โดยพำนักอยู่ในเม็กซิโกซิตี้

ก่อนที่ท่านจะได้รับเรียกให้รับใช้เป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่เต็มเวลาของศาสนจักร เอ็ลเดอร์คริสทอฟเฟอร์สันเป็นที่ปรึกษาทั่วไปของ NationsBank Corporation (ปัจจุบันคือ Bank of America) ในชาล็อตต์ นอร์ทแคโรไลนา ก่อนหน้านี้ท่านเป็นรองประธานอาวุโสและที่ปรึกษาทั่วไปของ Commerce Union Bank of Tennessee ในแนชวิลล์ ซึ่งท่านมีส่วนร่วมในชุมชนและองค์กรระหว่างศาสนา จากปี 1975 ถึง 1980 เอ็ลเดอร์คริสทอฟเฟอร์สันเป็นทนายความในวอชิงตัน ดี.ซี. หลังจากรับใช้เป็นเสมียนทนายให้จอห์น เจ. ซิริกา ผู้พิพากษาเขตของสหรัฐ (1972-1974)

ท่านเกิดที่เพลเซนท์โกรฟ ยูทาห์ ท่านจบมัธยมศึกษาตอนปลายในนิวเจอร์ซีย์ สำเร็จการศีกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ ซึ่งท่านเป็นนักเรียนทุนเอ็ดวิน เอส. ฮิงค์ลีย์ ท่านได้รับปริญญานิติศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยดุ๊ก

ในการเรียกอื่นๆ ท่านรับใช้เป็นตัวแทนเขตของศาสนจักร ประธานสเตค และอธิการ สมัยหนุ่มท่านรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาที่อาร์เจนตินา

เอ็ลเดอร์คริสทอฟเฟอร์สันกับแคเธอรีน เจคอบ คริสทอฟเฟอร์สันภรรยามีบุตรห้าคน

[caption]เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน โควรัมอัครสาวกสิบสอง

เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น

เอ็ลเดอร์นีล ลินเด็น แอนเดอร์เซ็นได้รับแต่งตั้งเป็นอัครสาวกของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2009

เอ็ลเดอร์แอนเดอร์เซ็นรับใช้เป็นสมาชิกอาวุโสของฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบก่อนที่ท่านจะได้รับเรียกสู่โควรัมอัครสาวกสิบสอง ท่านได้รับการเสนอชื่อเป็นสมาชิกโควรัมที่หนึ่งแห่งสาวกเจ็ดสิบเมื่อเดือนเมษายนปี 1993 ขณะอายุ 41 ปี ก่อนหน้านั้นท่านนำงานของศาสนจักรในบราซิลตอนใต้และเป็นสมาชิกในฝ่ายประธานภาค ดูแลศาสนจักรในยุโรปตะวันตก นอกจากนี้ท่านยังช่วยดูแลงานของศาสนจักรในเม็กซิโกและอเมริกากลาง นอกเหนือจากงานดังกล่าว ท่านยังดูแลการผลิตโสตทัศนูปกรณ์ของศาสนจักร รวมถึงการถ่ายทำเรื่อง The Testaments: Of One Fold and One Shepherd บริหารจัดการการก่อสร้างและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการถ่ายทอดที่ศูนย์การประชุมและเป็นผู้อำนวยการบริหารแผนกโสตทัศนูปกรณ์ของศาสนจักร ท่านพูดภาษาฝรั่งเศส โปรตุเกส และสเปน นอกเหนือจากภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาโดยกำเนิดของท่าน

ก่อนการเรียกเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ เอ็ลเดอร์แอนเดอร์เซ็นรับใช้เป็นประธานคณะเผยแผ่ในคณะเผยแผ่ฝรั่งเศส บอร์โด และประธานสเตคแทมปา ฟลอริดา

เอ็ลเดอร์แอนเดอร์เซ็นเกิดที่เมืองโลแกน รัฐยูทาห์ เติบโตที่เมืองโพคาเทลโล รัฐไอดาโฮ ในฟาร์มนมซึ่งท่านจำได้ว่าทำ “งานทั่วไปในฟาร์มที่ไอดาโฮตั้งแต่เช้ายันค่ำ” ในโรงเรียนมัธยมปลายท่านเก่งเรื่องการปกครองนักเรียนโดยทำหน้าที่เป็นผู้ว่าการรัฐไอดาโฮบอยส์

ท่านจบจากมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ ท่านเป็นนักเรียนทุนฮิงค์ลีย์ และได้รับปริญญามหาบัณฑิตสาขาบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด หลังสำเร็จการศึกษาท่านตั้งรกรากที่แทมปา ฟลอริดา ดำเนินธุรกิจโฆษณา การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการดูแลสุขภาพ

เอ็ลเดอร์แอนเดอร์เซ็นกับเคธี วิลเลียมส์ แอนเดอร์เซ็นภรรยามีบุตรสี่คน

หมายเหตุแนวทางการเขียน:เมื่อรายงานเกี่ยวกับศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย โปรดใช้ชื่อเต็มของศาสนจักรในการอ้างถึงครั้งแรก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ชื่อของศาสนจักร ไปที่ออนไลน์แนวทางการเขียน.