ข่าวเผยแพร่

การฆ่าตัวตายเป็นปัญหาสาธารณสุขทั่วโลก

การฆ่าตัวตายเป็นปัญหาสาธารณสุขทั่วโลกที่บ่อยครั้งสามารถป้องกันได้ มันเป็นสถานการณ์ซับซ้อน ด้วยเพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นจากเพียงสาเหตุเดียว ความเสี่ยงของการฆ่าตัวตายลดลงได้ เมื่อครอบครัว เพื่อนฝูง สมาชิกในวอร์ดและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ร่วมกันช่วยเหลือผู้ที่กำลังต่อสู้กับปัญหานี้ ทุกคนสามารถรับบทบาทในการป้องกันการฆ่าตัวตาย และควรเรียนรู้เรื่องปัจจัยเสี่ยงและสัญญาณเตือน หากตัวท่าน หรือคนที่ท่านรู้จักกำลังมีความคิดเรื่องการฆ่าตัวตาย ให้รีบติดต่อและพูดคุยกับผู้ที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างถูกทาง นี่เป็นลิงค์สู่แหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์: http://www.lds.org/preventingsuicide/?lang=eng&cid=rdb v preventing-suicide-eng 

             

ความเจ็บปวดจากอาการอกหักและปํญหาเกี่ยวกับครอบครัวเป็นสาเหตุหลักของคนไทยที่คิดจะฆ่าตัวตาย ดัวยอัตราเฉลี่ยที่300คนต่อเดือน หรือ4000กรณีเป็นประจำทุกปี ประเทศไทยติดอยู่ในอันดับ3ของโลกที่มีคนฆ่าตัวตายมากที่สุด ตามคำบอกกล่าวของจิตแพทย์ คุณหมอยงยุทธ์ วงศ์ภิรมณ์สันต์ โฆษกประจำกระทรวงสาธรณสุข ด้วยอัตรานี้ ทำให้ประเทศไทยมีคนฆ่าตัวตาย 1 คนในทุกๆ เกือบ 2 ชั่วโมง

กระทรวงสาธรณสุข

มันเป็นเรื่องน่าเสียใจ แม้ด้วยความพยายามอย่างดีที่สุด เราไม่สามารถปกป้องการฆ่าตัวตายได้ตลอดเวลา มันจะเหลือค้างไว้ของความปวดใจลึกๆและการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อย่างรุนแรงพร้อมกับคำถามที่ไม่มี่คำตอบให้กับครอบครัวและคนที่คุณรักที่ต้องการการบำรุงดูแลและสนับสนุน
แต่กระนั้น เราสามารถพบสันติสุขได้ในท่ามกลางความเจ็บปวดและความปวดร้าวลึกๆ โดยทางพระผู้ช่วยให้รอดของเรา “พระองค์ผู้เสด็จลงต่ำกว่าสิ่งทั้งปวง” (คพ 88:6; คพ 122:8) “เพื่อพระองค์จะทรงรู้ตามเนื้อหนังว่าจะทรงช่วยผู้คนของพระองค์ตามความทุพพลภาพของพวกเขาได้อย่างไร” (แอลมา 7:12)
ด้วยเพราะพระเยซูคริสต์และการชดใช้ของพระองค์ ทำให้ท่านมีความกล้าหาญที่จะอดทนจนถึงที่สุดและมีความหวังในการรักษาเยียวยา พระผู้ช่วยให้รอดเข้าใจถึงสิ่งที่ท่านกำลังต่อสู้และได้ให้สัญญาว่า “เราจะไม่ละทิ้งพวกท่านไว้ให้เป็นลูกกำพร้า  เราจะมาหาท่าน” (ยอห์น 14:18) พระบิดาบนสวรรค์ได้ประทานแก่พวกเราให้มี ครอบครัว เพื่อนฝูง  ผู้นำศาสนาจักร และผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถพิเศษ ผู้ที่จะช่วยให้เราแก้ไขปัญหาได้ เพราะท่านมิได้อยู่โดยลำพังโดดเดี่ยว
คนส่วนใหญ่ทีมีความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย แท้จริงแล้วไม่ต้องการตาย พวกเขาเพียงแค่จะหาวิธีบรรเทา ความเจ็บปวดที่กำลังต่อสู้ ทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ หรือทางจิตวิญญาณ แม้แต่ผู้ที่ชอบธรรม เช่น อัครสาวก Paul กล่าว “จนเราเกือบหมดหวังที่จะเอาชีวิตรอดมาได้” (2โครินทร์ 1:8) เมื่อพวกเขารู้สึกถึงน้ำหนักที่ถ่วงไว้และตกอยู่ในความทุกข์สาหัส (ดูที่ กันดารวิถี11:14-15; พงศ์กษัตริย์1 19:4; เยเรมีย์ 20:14; พิลิปปี1:21-24) แม้ว่าในช่วงเวลาที่มีปัญหา เช่น นีไฟและแอลมา ทั้งสองได้กล่าว “ข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าได้วางใจผู้ใด”ขณะที่พวกเขาพบว่า “พระเจ้าทรงเป็นผู้สนับสนุนของพวกเขา” “ในความทุกข์ทุกอย่าง” (2นีไฟ 4:19-20; แอลมา 36:27)

   

แม้ว่าการปลิดชีพตนเองจะเป็นการกระทำที่ผิด คนที่ทำเช่นนั้นอาจจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง พระเจ้าเท่านั้นที่จะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้และพิพากษาสถานการณ์ได้
เห็นได้ชัดว่า เราไม่รู้ถึงสถานการณ์โดยรอบด้านของการฆ่าตัวตาย แต่พระเจ้าทรงรับรู้ถึงรายละเอียดและพระองค์คือผู้ที่จะพิพากษาการกระทำของเราบนแผ่นดินโลก
“เมื่อพระองค์ทรงพิพากษา ข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์จะพิจารณาทุกอย่าง จะเป็นส่วนของพันธุกรรม การประกอบทางเคมี สภาพจิตใจของเรา ศักยภาพทางสติปัญญา การเรียนการสอนที่ได้รับ ประเพณีแห่งบรรพบุรุษ สุขภาพและอื่นๆ” (“การฆ่าตัวตาย: เรารู้ในบางสิ่งและไม่เข้าใจในทุกสิ่ง” Ensign, ตุลาคม พ.ศ. 2530, 8).
ประธาน Thomas S. Monson ได้กล่าวว่า “ความรักของพระเจ้ามีให้สำหรับทุกคน ไม่ว่าท่านจะรู้สึกว่ามีค่าควรหรือไม่ พระองค์พร้อมจะมอบให้เสมอ”

 

หมายเหตุแนวทางการเขียน:เมื่อรายงานเกี่ยวกับศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย โปรดใช้ชื่อเต็มของศาสนจักรในการอ้างถึงครั้งแรก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ชื่อของศาสนจักร ไปที่ออนไลน์แนวทางการเขียน.