หัวข้อ

นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัว

MORMONNEWSROOM.ORG (ทำให้เป็นปัจจุบันเมื่อ 2/1/2012)

MORMONNEWSROOM.ORG เป็นเว็บไซต์สื่อมวลชนของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย (“ศาสนจักร”)

ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนตัวที่ได้จากท่านสำคัญต่อศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายและนิติบุคคลในสังกัด (เรียกโดยรวมในนโยบายนี้ด้วยคำว่า “ศาสนจักร” “เรา” และคำในลักษณะคล้ายกันนี้) นโยบายความเป็นส่วนตัวมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นคำแถลงทั่วไปถึงวิธีรวบรวม ใช้ และดำเนินการข้อมูลส่วนตัวที่ท่านให้ไว้ในเว็บไซต์ของเราหรือโปรแกรมประยุกต์บนอินเทอร์เน็ต (เรียกว่า “เว็บไซต์”) เราพยายามรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในลักษณะที่สอดคล้องกับกฎหมายของประเทศที่เรารวบรวมข้อมูลส่วนตัว นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ประยุกต์ใช้กับเว็บไซต์นี้ซึ่งมี Corporation of the President of The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints, Corporation of the Presiding Bishop of The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints, หรือ FamilySearch International เป็นเจ้าของและดำเนินการ (ดังระบุไว้เป็นพิเศษในหน้าแรกของเว็บไซต์)

ในขอบเขตอำนาจตามกฎหมายที่เลือกไว้ องค์กรในสังกัดศาสนจักรอาจเลือกใช้ข้อกำหนดนโยบายความเป็นส่วนตัวเฉพาะเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดแห่งกฎหมายท้องที่นั้นๆ เมื่อเห็นว่าจำเป็นต้องใช้ข้อกำหนดแยกต่างหาก เราจะแจ้งเพิ่มเติมให้ท่านทราบ

ท่านสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้เกือบทุกเว็บไซต์โดยไม่ต้องให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆ เมื่อมีการขอข้อมูลส่วนตัว เราจะยึดตามหลักความเป็นส่วนตัวต่อไปนี้เกี่ยวกับวิธีที่เรารวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน และเก็บข้อมูลของท่าน

ระเบียบปฏิบัติเรื่องความเป็นส่วนตัว

1. การรวบรวมข้อมูล . เมื่อท่านสร้างบัญชีแอลดีเอสโดยตรงหรือผ่านเว็บไซต์ FamilySearch ลงทะเบียนบัญชีในเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่งของเรา กรอกข้อมูลแฟ้มประวัติ หรือกระทำการใดๆ คล้ายกันนี้ เราอาจรวบรวมหรือขอข้อมูลจากท่านหรือข้อมูลบันทึกสมาชิกภาพของท่าน (หากมี) รวมถึงชื่อ ที่อยู่ ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ภาพถ่าย การตั้งค่าการติดต่อหรือค่าแฟ้มประวัติ และข้อมูลหน่วยศาสนจักรของท่าน ตลอดจนข้อมูลอื่นๆ ซึ่งไม่จำกัดแต่เพียงเท่านี้

นอกจากนี้เราอาจรวบรวมข้อมูลที่อุปกรณ์อินเทอร์เน็ตหรือเว็บเบราว์เซอร์ของท่านส่งมาเมื่อใดก็ตามที่ท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา ข้อมูลดังกล่าวรวมถึงที่อยู่ Internet Protocol

2. การใช้ ข้อมูลส่วนตัว. เราอาจใช้ข้อมูลส่วนตัวที่ท่านให้มาเพื่อ (ก) ให้ท่านติดต่อเราได้ (ข) ดำเนินการตามคำขอของท่าน (ค) ขอความคิดเห็นจากท่านเกี่ยวกับส่วนต่างๆ ในเว็บไซต์ หรือเนื้อหา หรือ (ง) ช่วยให้พันธกิจของท่านบรรลุผล

เราอาจใช้ข้อมูลส่วนตัวของท่านเพื่อจุดประสงค์ภายในเช่นกัน ได้แก่ การตรวจสอบ การวิเคราะห์ข้อมูล การแก้ปัญหาระบบ และการค้นคว้าวิจัย

นอกจากนี้ เราอาจใช้ทั้งข้อมูลส่วนตัวที่ท่านให้มาและข้อมูลที่เว็บเบราว์เซอร์ของท่านส่งมา (ดูหมวดที่ 10 ด้านล่าง) ทั้งนี้เพื่อตรวจหาผู้ใช้ที่มีท่าทีว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเว็บไซต์ของเรา หรือเพื่อปรับเปลี่ยนให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ของเรา    

หากจะมีการใช้ข้อมูลของท่านเพื่อจุดประสงค์ใดก็ตามนอกเหนือจากที่สรุปไว้ข้างต้น เราจะแจ้งให้ท่านทราบเป็นพิเศษและขออนุญาตจากท่านหากกฎหมายกำหนด

เราอาจแจ้งให้ท่านทราบเป็นระยะถึงตัวเลือกต่างๆ ในการเลือกไม่ใช้หรือเลือกใช้ลักษณะพิเศษบางอย่างในเว็บไซต์

3. การใช้ข้อมูลสมาชิกภาพศาสนจักร. หากท่านเป็นสมาชิกศาสนจักร ข้อมูลสมาชิกภาพทั่วไปของท่าน (เช่น ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์) และข้อมูลทางเลือกอื่นๆ ซึ่งท่านอาจเลือกให้ข้อมูลหรือไม่ให้ก็ได้ (เช่น ที่อยู่อีเมล ภาพถ่าย และอื่นๆ) อาจเปิดเผยกับสมาชิกศาสนจักรในวอร์ดหรือสาขาและสเตคหรือท้องถิ่นของท่านเพื่อจุดประสงค์ภายในของศาสนจักรโดยได้รับอนุญาตจากท่านก่อนหากกฎหมายกำหนดให้ต้องขออนุญาต ข้อมูลบางอย่างของท่านอาจดูได้เช่นกันโดยจำกัดภายใต้การควบคุมบนเว็บไซต์อินเทอร์เน็ตของเรา รวมถึง LDS.org ท่านอาจเลือกไม่เปิดเผยข้อมูลหรือจำกัดข้อมูลทางเลือกที่ท่านเปิดเผยโดยแก้ไขการตั้งค่าแฟ้มประวัติของท่านในแต่ละเว็บไซต์

นอกจากนี้ ข้อมูลสมาชิกภาพรวมถึงข้อมูลติดต่อส่วนตัวของท่านอาจเปิดเผยต่อผู้นำศาสนจักรเพื่อจุดประสงค์ภายในของศาสนจักร

4. การส่งเนื้อหา. ในบางเว็บไซต์ของเรา ท่านอาจให้เนื้อหาและความคิดเห็นของท่านในพื้นที่เว็บไซต์บางส่วน บางครั้งท่านส่งเนื้อหาโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ส่วนตัวแต่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นเห็น (เช่น ข้อความออนไลน์ส่วนตัว บันทึกส่วนตัว หรือลักษณะอื่นๆ ที่คล้ายกัน) อย่างไรก็ตาม การส่งเนื้อหาอื่นๆ อาจมีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดเผยต่อสาธารณชนและให้ผู้อื่นเห็นได้ (เช่น ประจักษ์พยานเป็นลายลักษณ์อักษรหรือความคิดเห็นออนไลน์ในพื้นที่บางส่วนของเว็บไซต์เรา)

ในบางกรณีหากจะมีการเปิดเผยเนื้อหาที่ท่านส่งมาต่อสาธารณชนหรือบุคคลที่สาม เราจะขอให้ท่านแจ้งความยินยอมเมื่อท่านสร้างแฟ้มประวัติอีกแฟ้มหนึ่ง (เช่น   mormon.org หรือ familysearch.org) หรือเมื่อท่านอัพโหลดเนื้อหา (เช่น เมื่อท่านอัพโหลดคลิปวิดีโอหรือข้อมูลการสืบลำดับเชื้อสาย) เราขอแนะนำให้ท่านใช้ความระมัดระวังเมื่อให้เนื้อหาที่มีจุดมุ่งหมายให้คนทั่วไปดูได้และหลีกเลี่ยงการโพสต์ข้อมูลที่อาจก่อความเสียหายหรืออันตราย หรือเสี่ยงต่อความเสียหายหรืออันตรายต่อผู้อื่นและตัวท่านเอง

เนื้อหาทุกประเภทที่ท่านส่งมาจะเก็บไว้ในระบบของเราหรือระบบในสังกัดของเราหรือบุคคลที่สาม (ดังนิยามไว้ในหมวด 7ก ด้านล่าง) ถึงแม้จะมีการใช้มาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปคุ้มครองผลงานของท่านจากการเข้าไปใช้ เปิดเผย หรือดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต (ดังนิยามไว้ในหมวด 8 ด้านล่าง) แต่เราไม่สามารถรับรองได้ถึงความเป็นส่วนตัวโดยสมบูรณ์ และในบางกรณี เราอาจเลือกหรือถูกข้อกฎหมายกำหนดให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อบุคคลที่สามดังสรุปสาระสำคัญไว้ในหมวดที่ 7 ของนโยบายนี้

แม้ว่าเราจะอยู่ภายใต้พันธะรับผิดชอบที่ต้องตรวจดูการส่งเนื้อหาของท่าน แต่เราสงวนสิทธิ์ในการทำเช่นนั้นตามดุลยพินิจของเราแต่เพียงผู้เดียว เราสงวนสิทธิ์ในการบล็อกหรือถอดเนื้อหาใดก็ตามที่เราเห็นว่าไม่เหมาะสม ลามกอนาจาร หยาบโลน เสื่อมเสียทางเพศ หยาบคาย รุนแรง ก่อกวน หมิ่นประมาท กล่าวร้าย ล่วงละเมิด ผิดกฎหมาย ข่มขู่ หรือเป็นเหตุให้ต้องคัดค้าน ไม่ว่าจะมีจุดมุ่งหมายให้เป็นส่วนตัวหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนก็ตาม เนื่องจากเราไม่ได้ตรวจดูเนื้อหาทุกอย่างที่ส่งเข้ามาผ่านทุกช่องทางในทุกเว็บไซต์ เราจึงไม่อาจรับรองได้ว่าจะสามารถดำเนินการตามมาตรการคุ้มครองในกรณีที่ท่านให้เนื้อหาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่เป็นเหยื่อการทำร้ายหรือการกระทำทารุณกรรมหรือเสี่ยงต่อการเป็นเหยื่อการทำร้ายหรือการกระทำทารุณกรรม

เมื่อเราทราบว่ามีเนื้อหาที่เราเห็นว่ามีลักษณะรุกราน หรือที่อาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัวของท่านหรือข้อมูลไม่พึงเปิดเผย หรือเนื้อหาที่เป็นของผู้อื่น เราจะบล็อกหรือถอดเนื้อหาดังกล่าวออกจากเว็บไซต์โดยจุดมุ่งหมายอันสุจริต  

5.การรักษาให้คงอยู่. เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวและผลงานที่รวบรวมไว้ตามระยะเวลาอันสมควรเพื่อให้เป็นไปตามจุดประสงค์ของการรวบรวมดังกล่าว จากนั้นจะลบออกจากบันทึก ยกเว้นในกรณีที่เป็นข้อมูลแฟ้มประวัติเชิงประวัติศาสตร์ซึ่งมีอยู่จำกัด บันทึกการสืบลำดับเชื้อสายทั่วไป และข้อมูลสมาชิกภาพซึ่งเก็บรักษาไว้ในบันทึกลำดับเชื้อสายหรือบันทึกทางประวัติศาสตร์ของศาสนจักรแบบถาวร

6. การเข้าใช้งาน . เราพยายามอย่างยิ่งที่จะคงความถูกต้องของข้อมูลส่วนตัวและอาศัยท่านทำให้ข้อมูลส่วนตัวของท่านถูกต้องครบถ้วน ท่านอาจตรวจสอบ แก้ไข หรือลบข้อมูลส่วนตัวของท่านผ่านการลงทะเบียนในเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง ทางแฟ้มประวัติของท่าน หรือทางบัญชีแอลดีเอสของท่าน ตามที่เกี่ยวข้อง

หากท่านเป็นสมาชิกศาสนจักร ข้อมูลบางส่วนของท่านอาจปรับให้เป็นปัจจุบันด้วยการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในบันทึกสมาชิกภาพศาสนจักรเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต้องทำโดยติดต่อพนักงานในหน่วยศาสนจักรของท่านเพื่อขอการเปลี่ยนแปลง หากท่านประสบปัญหาการแก้ไขหรือปรับข้อมูลส่วนตัวให้เป็นปัจจุบัน ท่านสามารถติดต่อเราโดยส่งอีเมลมาที่DataPrivacyOfficer@ldschurch.orgเมื่อได้รับอีเมลของท่าน เราจะดำเนินการอย่างดีที่สุดเพื่อตอบกลับท่านภายใน 30 วัน หากเราไม่สามารถดำเนินการให้ท่านภายในระยะเวลา 30 วันหรือไม่สามารถช่วยให้ท่านเข้าถึงข้อมูลที่ขอมา เราจะชี้แจงเหตุผลให้ท่านทราบ

7. การแบ่งปันและเปิดเผยข้อมูล. เราถือว่าข้อมูลส่วนตัวของท่านเป็นข้อมูลไม่พึงเปิดเผยและไม่ขายข้อมูลท่านให้แก่ผู้อื่น เราไม่แบ่งปันข้อมูลส่วนตัวของท่านกับบุคคลอื่นเว้นแต่ในสภาวการณ์ต่อไปนี้ (หรือในกรณีอื่นๆ ที่เราแจ้งท่านเป็นกรณีพิเศษและได้รับอนุญาตจากท่านก่อน):

ก. ผู้ให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สาม เราอาจให้ข้อมูลส่วนตัวของท่านแก่บุคคลที่สามเพื่อใช้ในการปฏิบัติงานภายในแทนเรา (เช่น ขั้นตอนการจ่ายเงิน การซ่อมบำรุง ความปลอดภัย การวิเคราะห์ข้อมูล การเป็นแม่ข่าย และอื่นๆ) ในกรณีเหล่านั้น ผู้ให้ข้อมูลจะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดตามสัญญาที่ต้องป้องกันการใช้ข้อมูลส่วนตัวในลักษณะอื่น (รวมถึงการใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการตลาด) หรือการโอนข้อมูล ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้และมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป

ข. องค์กรของศาสนจักร เราอาจโอนข้อมูลส่วนตัวให้องค์กรในสังกัดศาสนจักรเพื่อบรรลุผลตามจุดประสงค์ของศาสนจักร สำหรับข้อมูลสมาชิกภาพที่โอนมาจากสหภาพยุโรป เรายึดตามข้อตกลงมาตรฐานระหว่างองค์กรของศาสนจักรโดยเป็นไปตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป สำหรับการส่งข้อมูลส่วนตัวทางออนไลน์ เราถือว่าการส่งข้อมูลของบุคคลหนึ่งเป็นการยืนยันซึ่งบ่งบอกถึงการแจ้งอนุญาตให้ดำเนินการข้อมูลนั้นพร้อมกับแจ้งอนุญาตให้ส่งข้อมูลข้ามเขตมายังสหรัฐอเมริกาในกรณีที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อจุดประสงค์ของการให้ข้อมูลดังกล่าว

ค. ข้อกำหนดทางกฎหมาย เราอาจเข้าถึงหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่าน ข้อความที่ท่านโพสต์ บันทึกส่วนตัว การสนทนาออนไลน์ ข้อความส่วนตัว เนื้อหา หรือสิ่งอื่นๆ ที่ส่งมายังเว็บไซต์หากเราเชื่อโดยสุจริตว่าถูกเรียกร้องให้ทำเช่นนั้นโดยหมายเรียกพยานหรือคำสั่งฝ่ายตุลาการหรือฝ่ายปกครองอื่นๆ หรือเรียกร้องโดยกฎหมาย นอกจากนี้ เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านและข้อมูลอื่นๆ ที่เราเข้าใจโดยสุจริตว่าเป็นความเหมาะสมหรือจำเป็นในการป้องการการละเมิดข้อตกลงอื่นๆ ของเรา เพื่อระมัดระวังไม่ให้เกิดภาระรับผิดชอบ เพื่อป้องกันสิทธิ ทรัพย์สิน หรือความปลอดภัยของเว็บไซต์ ตัวบุคคล หรือสาธารณชนโดยทั่วไป เพื่อธำรงและป้องกันความปลอดภัยและความซื่อสัตย์สุจริตในบริการหรือระบบพื้นฐานของเรา เพื่อป้องกันเราและบริการของเราจากการใช้งานลักษณะฉ้อฉล ก่อความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตรวจสอบหาความจริงและแก้ต่างให้ตนเองจากข้อเรียกร้องหรือข้อกล่าวหาจากบุคคลที่สาม หรือเพื่ออำนวยความสะดวกให้หน่วยงานบังคับคดีทางกฎหมาย

8. การปกป้องข้อมูล . เราใช้มาตรการทางเทคนิคและมาตรการขององค์กรในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่ได้รับจากการสูญเสีย การใช้ในทางที่ผิด การเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต และเพื่อปกป้องข้อมูลดังกล่าวไว้เป็นความลับ เราทบทวนขั้นตอนรักษาความปลอดภัยรวมทั้งพิจารณาเทคโนโลยีและวิธีการรักษาความปลอดภัยเป็นประจำ เราใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสลับเพื่อเข้ารหัสลับการถ่ายโอนข้อมูลในหน้าล็อกอินของเรา แต่เนื่องจากเราไม่สามารถรับรองความปลอดภัยของเทคโนโลยีการเข้ารหัสลับเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ จึงขอให้ใช้ความระมัดระวังในการส่งข้อมูลส่วนตัวออนไลน์

9. ข้อมูลจากบุคคลที่สาม . ในเขตซึ่งกฎหมายท้องที่อนุญาต เราอาจส่งข้อมูลส่วนตัวรวมถึงข้อมูลติดต่อเกี่ยวกับบุคคลอื่นนอกจากท่าน (เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า บุคคลที่สาม) ทั้งนี้เพื่อให้เราสามารถติดต่อกับบุคคลนั้น ดำเนินการส่งมอบ หรือตอบรับคำขอของท่าน ข้อมูลที่รวบรวมมาได้จะใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้คำขอของท่านแต่เพียงอย่างเดียว เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับใครก็ตามนอกเหนือจากตนเอง ท่านต้องได้รับการแจ้งอนุญาตจากบุคคลนั้นก่อนหากกฎหมายกำหนด

หากท่านหรือบุคคลอื่นให้ข้อมูลติดต่อส่วนตัวแก่เราแล้วและท่านต้องการขอให้เรายุติการติดต่อกับท่าน โปรดดำเนินการตามขั้นตอนยกเลิกการบอกรับหรือเลือกยกเลิกการดำเนินการที่ให้ไว้กับเว็บไซต์นั้นๆ จดหมายข่าว การแจ้งเตือนทางอีเมล หรือสิ่งที่คล้ายกันนี้

10. การรวบรวมข้อมูลเชิงรับ: เทคโนโลยีค้นหาและติดตาม คุกกี้ และเคลียร์กิฟ. เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์หนึ่งของเรา เซิร์ฟเวอร์หรือระบบกรองของเราอาจรวบรวมข้อมูลที่เว็บเบราว์เซอร์ของท่านส่งมาทุกครั้งที่ท่านเข้าเว็บไซต์ ข้อมูลนี้อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่ที่ประเภทเว็บเบราว์เซอร์ของท่าน ระบบปฏิบัติการของท่าน การเลือกค่าภาษาของท่าน หน้าเว็บที่นำท่านมายังเว็บไซต์ของเรา วันและเวลาที่ผู้เข้าชมแต่ละคนเรียกดู และข้อมูลที่ท่านค้นหาในเว็บไซต์ของเรา

นอกจากนี้เรายังใช้คุกกี้และเคลียร์กิฟเพื่อรวบรวมข้อมูลเช่นกันคุกกี้ เป็นข้อมูลส่วนเล็กที่ใช้โอนข้อมูลไปยังฮาร์ดไดร์ฟคอมพิวเตอร์ของท่านหรือเว็บเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อจุดประสงค์ในการเก็บบันทึก คุกกี้ทำหน้าที่เป็นตัวจัดกลุ่มป้ายข้อมูลให้เว็บไซต์ต่างๆ ของเราจดจำเว็บเบราว์เซอร์ของท่านได้เมื่อท่านกลับมาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง  เคลียร์กิฟ (หรือเรียกว่าเว็บบีคอน) ใช้ร่วมกับคุกกี้เพื่อช่วยให้เราเข้าใจว่าผู้เข้าชมจะโต้ตอบกับเว็บไซต์ของเราอย่างไร โดยทั่วไปเคลียร์กิฟเป็นภาพกราฟิกโปร่งใสที่ใส่ไว้ในเว็บไซต์ การใช้เคลียร์กิฟทำให้เราสังเกตพฤติกรรมของท่านเมื่อเปิดหน้าเว็บหนึ่งขึ้นมา รวมทั้งทำให้เราติดตามและบันทึกกิจกรรมต่างๆ ของเบราว์เซอร์ที่รู้จักได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อใช้เคลียร์กิฟ เราสามารถระบุวิธีเข้ามาเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์และสังเกตยอดการใช้และเส้นทางการใช้บนเว็บไซต์ของเรา

เรารวบรวมข้อมูลนี้เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นว่าท่านใช้และโต้ตอบกับเว็บไซต์ของเราอย่างไรเพื่อให้ท่านมีประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้น นอกจากนี้เรายังเปิดเผยข้อมูลนี้กับพนักงานของเรา รวมถึงผู้รับเหมา ผู้ให้บริการ และองค์กรในสังกัดเช่นกัน ดังนิยามไว้ในหมวดที่ 7

ท่านสามารถเปลี่ยนแปลงค่าเว็บเบราว์เซอร์เพื่อหยุดรับคุกกี้หรือเตือนท่านก่อนรับคุกกี้จากเว็บไซต์ที่ท่านเข้า แต่หากท่านไม่รับคุกกี้ ท่านอาจจะไม่สามารถใช้หมวดหรือฟังก์ชั่นการใช้งานบางอย่างในเว็บไซต์ของเรา

11. การดำเนินตามนโยบายและคำถามเกี่ยวกับข้อมูลความเป็นส่วนตัว. เรามีเจ้าหน้าที่ข้อมูลส่วนตัวซึ่งช่วยดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้และตอบคำถามเรื่องความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของข้อมูล เจ้าหน้าที่ผู้นี้ช่วยให้ความรู้แก่พนักงานศาสนจักรเกี่ยวกับการดำเนินตามนโยบายเช่นกัน คำถามเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวหรือความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวที่เราดำเนินการอาจส่งทางอีเมล โทรสาร หรือจดหมายไปที่

อีเมล:            DataPrivacyOfficer@ldschurch.org
โทรสาร:                 1-801-240-1187
ที่อยู่:           Data Privacy Office
                       50 E. North Temple St.
                       Salt Lake City, UT 84150-0018

12. ความเป็นส่วนตัวของเด็ก . เราไม่ได้รวบรวมข้อมูลจากเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีในเว็บไซต์ส่วนใหญ่ของเราโดยที่ทราบว่าเป็นเด็กในวัยนั้น เว็บไซต์ใดของเราที่รวบรวมข้อมูลของเด็กจะกระทำเช่นนั้นก็ต่อเมื่อบิดามารดาหรือผู้ปกครองของเด็กแจ้งหรือแสดงความยินยอมล่วงหน้าตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เราใคร่ขอแนะนำให้ผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 18 ปีขออนุญาตจากบิดามารดาก่อนส่งข้อมูลส่วนตัวให้ใครก็ตามทางอินเทอร์เน็ต และขอให้บิดามารดาสอนบุตรธิดาเกี่ยวกับวิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

13. ลิงก์ไปยังบุคคลที่สาม . เราไม่รับผิดชอบต่อระเบียบปฏิบัติเรื่องความเป็นส่วนตัวหรือเนื้อหาของเว็บไซต์บุคคลที่สาม เพื่อความปลอดภัยของท่านเอง ท่านควรทบทวนนโยบายของเว็บไซต์อื่นเพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์เหล่านั้นดำเนินการตามความคาดหวังของท่านในเรื่องความเป็นส่วนตัว

14. การเปลี่ยนแปลงในอนาคตของนโยบายความเป็นส่วนตัว. เราทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นประจำและอาจเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิ่มเติม หรือลบบางส่วนออกตามความจำเป็น หากเราเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ในลักษณะซึ่งส่งผลต่อวิธีที่เราใช้ข้อมูลส่วนตัวของท่าน เราจะแจ้งให้ท่านทราบที่นี่หรือแจ้งไว้ในหน้าหลักของเรา โดยจะระบุวันที่ปรับปรุงแก้ไขไว้ด้านล่างของนโยบายความเป็นส่วนตัว เราขอให้ท่านตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นระยะๆ เพื่อให้ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

วันที่มีผลบังคับใช้

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012

หมายเหตุแนวทางการเขียน:เมื่อรายงานเกี่ยวกับศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย โปรดใช้ชื่อเต็มของศาสนจักรในการอ้างถึงครั้งแรก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ชื่อของศาสนจักร ไปที่ออนไลน์แนวทางการเขียน.